ที่ประชุมมหาเถรสมาคมมีมติแต่งตั้งพระธรรมปริยัติโมลี (อาทร อินฺทปญฺโญ ป.ธ.9, พธ.บ.) เจ้าอาวาสวัดบพิตรพิมุขวรวิหาร กทม. และอดีตกรรมการมหาเถรสมาคม ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 3
เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด
นอกจากนี้ ยังแต่งตั้ง พระราชปริยัติสุนทร (อมรภิรักษ์ ปสนฺโนป.ธ.4) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวราราม เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 12 ด้วย
สำหรับพระราชปริยัติสุนทร ตกเป็นข่าวเมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2564 เมื่อที่ประชุม มส.มีมติปลดฟ้าผ่า ถอดถอนจากตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมกับมีคำสั่งแต่งตั้งพระราชภาวนาภิธาน (ศิริวัฒน์ สิริวฑฺฒโน น.ธ.เอก) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ ขึ้นดำรงตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดฉะเชิงเทราแทน
เป็นการปลดจากตำแหน่งในคราวเดียวกับพระธรรมรัตนาภรณ์ (สมศักดิ์โชตินธโร ป.ธ.5) พ้นจากเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี และพระเทพสารเมธี (บัวศรี ชุตินธโร ป.ธ.4) พ้นจากเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ (ธรรมยุต)
นำมาซึ่งการต่อต้านและขอให้มหาเถรสมาคมชี้แจงแสดงเหตุผล
โดยเฉพาะคณะสงฆ์จังหวัดกาฬสินธุ์ฝ่ายธรรมยุตนั้นมีความเคลื่อนไหวใหญ่ ถึงขนาดเจ้าคณะตำบล เจ้าคณะอำเภอทั้งจังหวัดขอยื่นลาออกจากตำแหน่ง
ในการประชุมมหาเถรสมาคมครั้งนี้ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (สนิท ชวนปัญโญป.ธ.9) เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก และเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม ในฐานะกรรมการมหาเถรสมาคม เสนอให้แต่งตั้งพระสังฆาธิการระดับอดีตเจ้าคณะจังหวัดทั้ง 2 รูป ขึ้นเป็นที่ปรึกษา เจ้าคณะภาคด้วย
ที่ประชุมมหาเถรสมาคมก็เห็นชอบและให้เจ้าคณะใหญ่หนกลางและเจ้าคณะใหญ่ธรรมยุตดำเนินการ เพื่อเสนอให้มหาเถรสมาคมพิจารณาแต่งตั้งต่อไป
สำหรับพระธรรมรัตนาภรณ์ เป็นพระเถระในพื้นที่ปกครองเจ้าคณะภาค1 (มหานิกาย) ส่วนพระเทพสารเมธี เป็นพระเถระในพื้นที่ปกครองเจ้าคณะภาค 9 (ธรรมยุต)
ถ้าเป็นไปตามแนวทางที่พระราชปริยัติสุนทรได้รับการเยียวยา ทั้งสองรูปก็จะได้รับการแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 1 (มหานิกาย) และที่ปรึกษาคณะภาค 9 (ธรรมยุต)
ต้องรอดูว่าจะมีการเสนอแต่งตั้งตามนี้หรือไม่?