พลังประชารัฐ เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. 71 คน ทั่วประเทศ ‘พล.อ.ประวิตร’ สั่งผู้สมัครเดินเคาะประตูบ้านทุกหลังคาเรือน อย่าหวังพึ่งแค่หัวคะแนน พร้อมปราศรัยครั้งแรกเขต “ป้อมปราบศัตรูพ่าย” มอบ ‘สกลธี ภัททิยกุล’ รับผิดชอบพื้นที่เลือกตั้งกรุงเทพฯ ยอมรับฐานะเสียงเดียวกับนายกฯ ขณะที่ บุตรชาย ‘พล.อ.สนธิ บุญรัตกลิน’ เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตทวีวัฒนา วาง ‘ภักดีหาญส์ หิมะทองคํา’ ลงเขตลาดพร้าว ‘นาถยา แดงบุหงา’ เขตสะพานสูง
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. พร้อมด้วย นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรค นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค ร่วมกันเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. 4 ภาค และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. รวมทั้งสิ้น 71 คน
แบ่งเป็นต่างจังหวัด จำนวน 44 คน ได้แก่ จ.ระยอง คือ นายพายัพ ผ่องใส เขต 3, จ.ฉะเชิงเทรา ได้แก่ นายรัฐสภา นพเกตุ เขต 1 พล.ต.ท.พิทักษ์ จารุสมบัติ เขต 4, จ.ชลบุรี คือ นายเพิ่มพงศ์ วงศ์ทรายทอง เขต 3, จ.ปราจีนบุรี คือ นายเกียรติกร พากเพียรศิล์ เขต 2, จ.ศรีสะเกษ ได้แก่ นายสุรณัฐ แนบเนียม เขต 3 นายอภิชา ระยับศรี เขต 7, จ.อุดรธานี คือ นายวิฑูรย์ นามคุณ เขต 6, จ.สุรินทร์ ได้แก่ ว่าที่ ร.ต.ศักดินันท์ ศุภนิมิตมนตรี เขต 1 นายพิเชษฐ์ สุทธิศิริวัฒนะ เขต 2 น.ส.ณชณฆ์ ตรงใจ เขต 3, จ.ชัยภูมิ คือ นายพีระพล ติ้วสุวรรณ เขต 6
จ.นครราชสีมา ได้แก่ น.ส.กาญจนา เปรมภิรักษา นายสุกฤษณ์ วัชรมาลีกุล พ.ต.อ.ปริวัฒน์ นาคำ, จ.เลย คือ นายชูศักดิ์ บัวระภาสิริ, จ.สกลนคร คือ นายอภิวัฒน์ มีชัย เขต 1, จ.กาฬสินธุ์ ได้แก่ น.ส.พาวิไล พิมพะสาลี เขต 1 นายสิทธิศักดิ์ พัฒนชัย เขต 4, จ.ร้อยเอ็ด คือ นายพงศกรณ์ ตั้งกิตติ์ตระกูล, จ.ขอนแก่น ได้แก่ นายอัษฎางค์ แสวงการ เขต 1 นายพัฒนา นุศรีอัน เขต 2 นายปัญญา ศรีปัญญา เขต 3 นายณรงค์เลิศ สุรพล เขต 4 นายสมใจ ชาญจระเข้ เขต 5 นายเลอพงศ์ ลิ้มรัตน์ เขต 8 นายไพฑูรย์ ผิวผาง เขต 9 นพ.กันณพงศ์ อัครไชยพงศ์ เขต 11
จ.แพร่ ได้แก่ น.ส.อาทิตยา อินนะไชย เขต 1 นายสุรสิทธิ์ เพชรปิตุพงษ์ เขต 2 นางปอรวัลย์ มุดเจริญ เขต 3, จ.ตาก คือ นายเชิงชัย ก่อประกิจ เขต 3, จ.พิษณุโลก คือ นายเอกพงษ์ กุลเจริญ เขต 5, จ.นครสวรรค์ ได้แก่ นายธนริชต์ วิเชียรรัตนี เขต 1 นายนัยศาลิน ถนอมมิตรวัฒนา เขต 2, จ.นครปฐม ได้แก่ นายศิรวริศ สวนแก้ว เขต 2 นายณัฐวัฒน์ ชั้นอินทร์งาม เขต 3 นายมนตรี บุญประคอง เขต 5, จ.กาญจนบุรี ได้แก่ นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ นายชูเกียรติ จีนาภักดิ์ พล.ต.ต.กมลสันติ กลั่นบุศย์ นางศรีสมร รัศมีฤกษ์เศรษฐ, จ.นครศรีธรรมราช คือ นพ.พิชาญศักดิ์ บุญมาศ เขต 8
จากนั้น พล.อ.ประวิตร และผู้บริหารพรรคยังได้ร่วมกันเปิดตัว นายสกลธี ภัททิยกุล อดีตรองผู้ว่าฯ กทม. ที่จะรับผิดชอบเป็นหัวหน้าทีมดูแลการเลือกตั้งในพื้นที่ กทม. พร้อม ว่าที่ผู้สมัครส.ส.กทม. ล็อตแรก จำนวน 28 คน ได้แก่ นายธิชดล สกุลำ ผู้สมัคร ส.ส.เขตพระนคร ป้อมปราบศัตรูพ่าย สัมพันธวงศ์ และดุสิต นายภูมิพิชัย ธํารดํารงค์ เขตปทุมวัน สาทร บางรัก น.ส.ชญาภา ปรีดาพากย์ เขตบางคอแหลม ยานนาวา ร.อ.รชฎ พิสิษฐบรรณกร เขตดินแดง พญาไท นายพณิชย์ วิทยาภัทร์ เขตราชเทวี นายสฤษดิ์ ไพรทอง เขตดุสิต นายภักดีหาญส์ หิมะทองคํา เขตลาดพร้าว
นายปราโมทย์ เพ็ชรฤทธิ์ เขตจตุจักร นายศิววงศ์ วงศ์พิชญา เขตดอนเมือง น.ส.นํ้าฝน ไพรทอง เขตสายไหม ภ.ญ.นพวรรณ หัวใจมั่น เขตบางเขน นางนฤมล รัตนาภิบาล เขตบางกะปิ นายรังสรรค์ กียปัจจ์ เขตหลักสี่ ดอนเมือง นายกานต์ กิตติอําพน เขตวังทองหลาง ห้วยขวาง น.ส.ณิรินทร์ เงินยวง เขตบึงกุ่ม คันนายาว นายกิตติภูมิ นีละไพจิตร์ เขตคลองสามวา นายศิริพงษ์ รัสมี ส.ส.กทม. เขตหนองจอก นายพีระพงษ์ รัสมี เขตลาดกระบัง นางนาถยา แดงบุหงา เขตสะพานสูง แขวงประเวศ นายตรีสิทธิ์ ศิริวรรณ เขตพระโขนง บางนา นายศันสนะ สุริยะโยธิน เขตคลองสาน ธนบุรี
นายสุวัฒน์ ม่วงศิริ เขตจอมทอง ธนบุรี เฉพาะแขวงดาวคะนอง นายระพีพัฒน์ สุเมธโชติเมธา เขตทุ่งครุ ราษฎร์บูรณะ นายนิธิ บุญยรัตกลิน เขตทวีวัฒนา หนองแขม เฉพาะแขวงหนองค้างพลู พ.ต.ท.วันชัย ฟักเอี้ยง เขตตลิ่งชัน บางกอกน้อย เฉพาะแขวงบางขุนศรี น.ส.บุณณดา สุปิยพันธุ์ เขตบางกอกน้อย ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ อํานรรฆสรเดช เขตบางซื่อ และนายคมสัน พันธุ์วิชาติกุล เขตบางพลัด นายเอกชัย ผ่องจิตร์ เขตบางแค
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า วันนี้เราเปิดผู้สมัครทั้งหมด 71 คน และเปิดไปแล้ว 350 คน และจะทยอยเปิดให้ต่อเนื่องให้ครบทุกเขตเลือกตั้ง พยายามจะส่งให้ครบทุกจังหวัดทั้ง 400 คน อยากฝากให้ผู้สมัครทั้งหลายลงพื้นที่ เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้ให้มากที่สุด อยู่ที่ทุกท่านจะทำต้องทำงานอย่างหนัก หลังจากอบรมผู้สมัครแล้วควรรู้ว่าจะต้องทำอย่างไร ฝากทุกคนด้วย ทางพรรคไม่มีอะไร นอกจากความหวังอยู่ที่ผู้สมัครทุกคนที่ต้องลงพื้นที่และเอานโยบายของพรรคไปหาเสียงตามที่คณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนด และต้องระมัดระวังเกี่ยวกับเรื่องผิดกฎหมาย
“เราจะต้องยึดมั่นในกฎหมายที่กกต.กำหนดทั้งหมด ฝากทุกท่านด้วย หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเราทุกคนจะประสบความสำเร็จด้วยดี ทั้งนี้ ขอให้ผู้สมัครพยายามเดินตามบ้านเรือนทุกหลัง ต้องเดินให้มาก ถ้าเราฝากหัวคะแนนอย่าเดียวคงไม่พอ แต่ถ้าไปพบปะประชาชนทุกหลัง จะทำให้มีกำลังใจ ขอให้อดทน ต้องเดิน ฝากทุกคนดำเนินการตามที่บอก ไปหาประชาชนทุกบ้าน ทุกหลังคาเรือน คนไหนเดินไม่ไหวให้อุ้มไป พปชร.ก้าวข้ามความขัดแย้ง ขจัดทุกปัญหา พัฒนาพื้นที่ ฝากผู้สมัครทุกคนในเรื่องนี้ด้วย ส่วนพวกผู้สมัคร ส.ส.ที่สูงอายุ ให้ใช้รถเอาแล้วกัน หรือใช้จักรยานก็ได้” พล.อ.ประวิตร กล่าว
ด้านนายวิรัช รองหัวหน้าพรรค พปชร. กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร พร้อมที่จะไปปราศรัยเป็นที่แรกให้กับเราคือ ที่เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังนายวิรัชประกาศเวทีปราศรัยแห่งแรก เป็นชื่อป้อมปราบศัตรูพ่าย ปรากฏว่า เรียกเสียงฮือฮาจากบรรดาว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เพราะล้อมาจากชื่อเล่นของ พล.อ.ประวิตร และยังเป็นชื่อมงคลที่ปราบศัตรูพ่ายหมด อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวได้สอบ พล.อ.ประวิตรว่า จะใช้ฤกษ์ดีวันไหนที่จะไปปราศรัย แต่ พล.อ.ประวิตร ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนายสกลธี เป็นลูกชายของ พล.อ.วินัย ภัททิยกุล อดีตเลขาธิการ คมช. ซึ่งเป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 6 รุ่นเดียวกับ พล.อ.ประวิตร เช่นเดียวกับนายนิธิ ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตทวีวัฒนา ซึ่งเป็นบุตรชายของ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตผู้บัญชาการทหารบก อดีตหัวหน้าคณะรัฐประหาร วันที่ 19 ก.ย.49 และเพื่อนนักเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 6 ของ พล.อ.ประวิตร โดยนายนิธิยังเป็นสามีของ ‘เป้ย’ ปานวาด เหมมณี ดารานักแสดง
‘สกลธี’ รับฐานเสียงเดียวกับนายกฯ แต่มีกลยุทธ์ทำให้กระเตื้องขึ้นได้
นายสกลธี ในฐานะหัวหน้าทีมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. ให้สัมภาษณ์ถึงความรู้สึกหลังกลับเข้าพรรคอีกครั้ง ว่า ตื่นเต้นต้องขอบคุณ พล.อ.ประวิตร ที่ให้โอกาสในการดูแลนโยบาย ตัวผู้สมัคร ส.ส. และรายละเอียดต่างๆ ของทีม กทม. อย่างไรก็ตามตอบรับเข้ามาดูแลในภาพรวม ส่วนจะลงสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อหรือบริหารพรรคด้านไหน แล้วแต่หัวหน้าพรรคและคณะกรรมการบริหารพรรคจะเห็นสมควร
เมื่อถามว่า นโยบายที่จะเอาชนะใจประชาชน นายสกลธี กล่าวว่า พูดตรงๆ กับหัวหน้าพรรค พปชร.ว่าการเลือกตั้ง กทม.ครั้งนี้ไม่ง่าย เพราะหลายพรรคมีตัวผู้สมัครดีๆ และส่งผู้สมัครกันเยอะ โอกาสมีกันทุกพรรค อย่างไรก็ตาม ส่วนที่ตนลาออกจาก พปชร.ไปก่อนหน้านี้ เพราะต้องการลงสมัครผู้ว่าฯกทม.ในนามอิสระ
“แต่การกลับมาครั้งนี้หัวหน้าพรรคได้ให้โอกาสและอิสระตนเต็มที่ในการหาเสียง ซึ่งความอิสระที่หัวหน้าพรรคมอบให้ทำให้ตนดึงคนที่ช่วยตอนลงสมัครผู้ว่าฯกทม.มาได้ ส่วนสนามเลือกตั้ง กทม.ครั้งนี้คงเป็นการสู้กันด้วยนโยบายและกระแส แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าตัวผู้สมัครก็สำคัญ เพราะเป็นบัตรเลือกตั้งสองใบ แต่สนาม กทม.คาดเดายากเสมอ ในเรื่องกระแสและนโยบายจึงมีส่วนสำคัญอย่างสูง” นายสกลธี กล่าว
เมื่อถามว่า ในสนาม กทม.มีแต่พรรคที่คุ้นเคย เช่น พรรคภูมิใจไทย พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) นายสกลธี กล่าวว่า ส่วนใหญ่ฐานเสียงขึ้นอยู่กับตัวผู้สมัคร ส.ส. ฉะนั้นจะใช้ประสบการณ์ที่มีทั้งหมด ต่อยอดนโยบายตอนลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. นโยบายสำคัญของแกนนำพรรค มาระดมสมองให้ตอบโจทย์ประชาชน
ส่วนที่มีกองเชียร์อยากให้ไปช่วย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มากกว่า พล.อ.ประวิตร นายสกลธี กล่าวว่า ตรงนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่าเดิมทั้งสองคนเคยอยู่ด้วยกัน ตนทราบดีว่าคนที่เชียร์ตนเป็นคนที่ชื่นชอบ พล.อ.ประยุทธ์อยู่มาก แต่วันนี้อยู่ในจุดที่ตนต้องตัดสินใจ โดย ที่ พปชร. พล.อ.ประวิตรให้ตนทำได้เต็มที่ ฉะนั้น ปฏิเสธไม่ได้ว่าคนที่เคยเชียร์อาจผิดหวังที่ไม่ไปช่วย พล.อ.ประยุทธ์ แต่ยืนยันว่ายังเคารพ พล.อ.ประยุทธ์ เหมือนเดิม
เมื่อถามอีกว่า จะกระทบฐานเสียงหรือไม่ นายสกลธี กล่าวว่า ยอมรับว่าคงมี แต่ในเมื่อตัดสินใจแล้วต้องมีการเปลี่ยนบ้าง เราเห็นในหลายการเลือกตั้ง กทม.แล้วว่ามันจะชี้ขาดช่วงสัปดาห์สุดท้าย อย่างการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ครั้งที่แล้ว ตอนแรกมีการประเมินว่าตนคงได้ไม่ลำดับที่ 5 แต่ในช่วงท้ายกระแสเพิ่มขึ้น เลือกตั้ง ส.ส.กทม.ครั้งนี้ มีผู้สมัครรับเลือกตั้งหลายพรรค มีการตัดคะแนนกัน จึงยังพูดไม่ได้
‘นิธิ’ เผย ‘พล.อ.สนธิ-เป้ย ปานวาด’ ให้กำลังทำงานการเมืองเพื่อประชาชน
ขณะที่ นายนิธิ บุญยรัตกลิน ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตทวีวัฒนา-หนองแขม (เฉพาะแขวงหนองค้างพลู) กล่าวว่า ตนเองตั้งใจอยากจะเสนอเป็นตัวอาสามารับใช้พี่น้องประชาชนกับพรรคพลังประชารัฐ โดยพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้ให้โอกาสและกำชับให้ช่วยกัน และตั้งใจลงพื้นที่รับฟังปัญหาของประชาชน พร้อมกับช่วยนำเสนอนโยบายของพรรคให้ประชาชนได้รับทราบ ส่วนมีความมั่นใจว่าจะได้รับชัยชนะหรือไม่นั้น ในเรื่องดังกล่าวนี้ตนจะทำให้ดีที่สุด และอยู่ที่ประชาชนยืนยันตนเองนั้นมีความตั้งใจ
เมื่อถามว่ามีการปรึกษา “เป้ย ปานวาด เหมมณี” ภรรยาและดารานักแสดงชื่อดังก่อนหรือไม่ นายนิธิ กล่าวว่า เป้ย ได้ให้กำลังใจและเป็นห่วงครอบครัว ซึ่งเขารู้ว่าตนมีความตั้งใจมาก และมีเจตนารมณ์ที่จะเข้ามาทำงานให้กับประชาชนจริงๆ
เมื่อถามว่า พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ซึ่งเป็นบิดาจะตามมาด้วยหรือไม่นั้น นายนิธิ กล่าวว่า คุณพ่อไม่มา เนื่องจากวางมือทางการเมืองแล้ว แต่ก็ได้ให้กำลังใจที่เข้ามาทำงานการเมือง