หนุ่มใหญ่พ่อม่ายวัย 54 ปี ชาวตำบลบัวบาน อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ เสียชีวิตปริศนาในบ้านพัก ศพขึ้นอืดส่งกลิ่นเหม็นโชยตลบ ญาติระบุเป็นบุคคลพิการ ติดสุรา มีเพื่อนมาก พร้อมติดใจสาเหตุเสียชีวิต อาจถูกทำร้ายเสียชีวิตไม่น้อยกว่า 3 วัน ขณะที่ตำรวจส่งศพพิสูจน์ละเอียดที่สถาบันนิติวิทยาขอนแก่น
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 24 เมษายน 2564 พ.ต.ท.บรรลือ ภูฉายา พนักงานสอบสวน สภ.นากุง อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ได้รับแจ้งเหตุพบศพคนเสียชีวิตในบ้าน ที่บ้านตูม หมู่ 4 ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น พร้อมประสานแพทย์เวรโรงพยาบาลยางตลาด นายชยพล วัชรอุดมกุล อุปนายกสมาคมกู้ภัยสามัคคีดีกาฬสินธุ์และกู้ภัยกุดหว้า ร่วมชันสูตรศพ
โดยที่เกิดเหตุ เป็นบ้านครึ่งปูนครั้งไม้ 2 ชั้น เลขที่ 228 หมู่ 4 บ้านตูม ต.บัวบาน พบชาวบ้านจำนวนมาก กำลังจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ท่ามกลางบรรยากาศที่โศกเศร้าของญาติผู้เสียชีวิต และกลิ่นเหม็นของศพที่โชยออกมาจากภายในบ้าน ซึ่งอยู่บริเวณชั้นล่างของตัวบ้าน จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ พบศพเป็นเพศชาย นอนหงายบนที่นอน หย่อนขาทั้ง 2 ข้างชันกับพื้น สวมกางเกงขาสั้นสีดำ ไม่สวมเสื้อ สภาพศพกำลังขึ้นอืด ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ ทราบชื่อคือนายสลาม รัตะบุดตา อายุ 54 ปี ภายในห้องพบรองเท้าแตะ ขวดน้ำดื่ม พัดลม ไม่พบร่องรอยการต่อสู้ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้จุดธูปเป็นจำนวนมากเพื่อดับกลิ่น
สอบถามนางรัตนภรณ์ รักกลาง อายุ 51 ปี เจ้าของบ้านพี่สาวผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ผู้เสียชีวิตในบ้านเป็นพี่ชายของตนเอง ชื่อนายสลาม รัตะบุดตา อายุ 54 ปี ซึ่งปกติอาศัยอยู่บ้านคนเดียว ขณะที่ตนและสามีไปนอนเฝ้าบ่อเลี้ยงกุ้งก้ามกราม ทั้งนี้ทุกเช้าและหัวค่ำ ตนจะนำอาหารมาส่งให้พี่ชายรับประทานเป็นประจำ โดยจะแขวนถุงอาหารไว้ที่ประตูหน้าบ้านบ้าง ขอบหน้าต่างบ้าง เนื่องจากพี่ชายเป็นพ่อหม้าย อยู่บ้านคนเดียว และเป็นบุคคลพิการ ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง แต่ติดสุรา แต่ละวันจะมีเพื่อนในกลุ่มชอบดื่มสุรา ซึ่งส่วนมากเป็นคนหมู่บ้านใกล้เคียง แวะเวียนมาหา และพากันไปดื่มนอกบ้านเป็นบางครั้ง บางครั้งที่พากันมานั่งกินภายในบริเวณบ้าน ก็มีเรื่องชกต่อยกันตามประสาคนเมา แต่ก็ไม่ร้ายแรงอะไร ล่าสุดมีเพื่อนมารับไปดื่มสุราหมู่บ้านอื่น ก่อนที่ถูกคู่อริซึ่งไม่รู้ว่าเป็นใครทำร้าย และพลเมืองดีนำส่งโรงพยาบาล โดยอาการก็ไม่ได้บาดเจ็บอะไรมาก ก่อนที่จะมานอนเสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุในครั้งนี้
นางรัตนภรณ์ กล่าวอีกว่า จากพฤติการณ์ของนายสลามพี่ชายที่ผ่านมา ที่ชอบดื่มสุราและถูกคนอื่นทำร้ายร่างกายมาตลอด และพอมาเสียชีวิตลงอย่างน่าอนาถอย่างนี้ โดยดูด้วยสายตาเปล่าไม่พบว่ามีบาดแผลหรือไม่อย่างไร เนื่องจากศพขึ้นอืด เริ่มเน่าเหม็นจนจำสภาพเดิมไม่ได้ ประกอบกับมีเพื่อนบ้านบอกว่าเมื่อ 3 วันก่อน มีผู้ชายถืออาวุธ ซึ่งมองว่าเป็นมีด มาหาพี่ชายที่บ้านด้วย พอพี่ชายเสียชีวิต ในตอนแรกตนจึงปักใจเชื่อว่าคงจะถูกทำร้าย จนเสียชีวิตแน่นอน อย่างไรก็ตาม ก็จะได้นำศพพี่ชายส่งพิสูจน์ที่สถาบันนิติวิทยาขอนแก่น เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้ง
ขณะที่นางละมุล ภักดีนอก ผู้ใหญ่บ้านตูม หมู่ 4 กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากชาวบ้าน ที่ทำรางระบายน้ำใกล้บ้านหลังดังกล่าวว่า ขณะกำลังทำงาน ได้กลิ่นเหม็นโชยออกมาจากตัวบ้านชั้นล่าง ซึ่งเป็นห้องนอนส่วนตัวของนายสลามผู้เสียชีวิต ชาวบ้านที่ทำรางระบายน้ำจึงเดินเข้าไปมองดูที่ช่องหน้าต่าง ซึ่งมีผ้าม่านกั้นอยู่ ก็มองเห็นนายสลามกลายเป็นศพกำลังขึ้นอืด จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นากุง มาตรวจที่เกิดเหตุและชันสูตรศพดังกล่าว
ด้านนายสเตรสฉัน (สะ-เตรด-ฉัน) ภูนาสูง ผู้ใหญ่บ้านตูม หมู่ 19 กล่าวว่า นายสลามเป็นคนรูปร่างเล็ก และเป็นบุคคลพิการ ถึงแม้จะมีนิสัยชอบดื่มสุราเป็นประจำ แต่ก็ไม่เคยมีพิษมีภัย หรือหาเรื่องทะเลาะกับใคร เท่าที่ทราบส่วนมากจะเป็นฝ่ายถูกทำร้ายมากกว่า สำหรับการเสียชีวิตของนายสลาม เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าน่าจะเสียชีวิตไม่น้อยกว่า 3 วัน เนื่องจากสภาพอากาศร้อน จึงทำให้ศพขึ้นอืดเร็วและส่งกลิ่นเหม็นรุนแรงดังกล่าว ซึ่งสาเหตุการเสียชีวิต ก็ขึ้นอยู่กับผลการพิสูจน์ตามหลักนิติวิทยา และความเห็นของเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องต่อไป
ขณะที่ พ.ต.ท.บรรลือ ภูฉายา พนักงานสอบสวน สภ.นากุง อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า เบื้องต้นจาการตรวจสอบบริเวณภายในห้องที่พบศพไม่พบร่องรอยการต่อสู้ และทรัพย์สินยังอยู่ครบ ส่วนตามร่างกายนั้นเบื้องต้นยังไม่สามารถตรวจสอบได้ เนื่องจากศพขึ้นอืด จึงยังไม่สามารถสรุปได้ว่าการเสียชีวิตเกิดจากสาเหตุใด ทั้งนี้ในส่วนญาติยังติดใจ ดังนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะส่งศพผ่าชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียด คาดว่าน่าจะใช้เวลาสักระยะ พร้อมกับทำการสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องเพื่อสรุปสาเหตุการเสียชีวิตต่อไป