คอลัมน์ สดจากสนามข่าว
เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด
โดย…ยุทธนา เกียรติดำเนินงาม / เรื่อง-ภาพ
ผ่าแผนโหดพระฆ่าพระ บ่มแค้นช่วงเข้าพรรษา จัดฉากฝีมือแก๊งทวงหนี้
แม้จะบวชเรียนมานาน อายุก็ล่วงเลยมา จนคนเรียกว่าหลวงตา แต่มิอาจลดละโทสะในใจ จึงกลายเป็นที่มาของคดีสยองวงการผ้าเหลือง
เรื่องราวสยองเปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 29 ตุลาคม 2564 หลังร.ต.อ.วิเชฏ สิมมาอ่อน ร้อยเวร สภ.ท่าคันโท จ.กาฬสินธุ์ รับแจ้งเหตุพระถูกฆ่ามรณภาพ ภายในบริเวณวัดป่าภูปอ ต.นาตาล อ.ท่าคันโท จ.กาฬสินธุ์
จึงรีบรายงานไปยัง พล.ต.ต.วรวัฒน์ มะลิ รักษาราชการแทนผบก.ภ.จว. กาฬสินธุ์ และเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.วิทยา เย็นจิตต์ รองผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ นายพลานุภาพ ธพรคำแพทย์ นายอำเภอท่าคันโท พ.ต.ท.จิรพงษ์ เอกวรพงศ์ รองผกก.สภ. (สอบสวน) รักษาราชการแทนผกก.สภ.ท่าคันโท เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสภ.ท่าคันโท ชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ ชุดสืบสวนภ.4 เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน หน่วยกู้ภัย และแพทย์เวรโรงพยาบาลท่าคันโท
จุดพบศพ
ที่เกิดเหตุพบศพพระลุน หรือหลวงพ่อลุน สุ่มมาตย์ อายุ 72 ปี พระลูกวัดนอนมรณภาพจมกองเลือดอยู่บริเวณบันไดลานหินทางลงกุฏิ มีบาดแผลถูกของมีคมฟันตามร่างกายถึง 27 แผล โดยเฉพาะบริเวณศีรษะ ใบหน้า แขนและข้อมือ จากการตรวจสอบบริเวณโดยรอบ ที่เกิดเหตุพบรองเท้าแตะสีเหลืองของพระลุนตกอยู่ ห่างจากจุดพบศพ เล็กน้อยพบจอบและมีดอีโต้เปื้อนเลือดวางอยู่ คาดว่าน่าจะเป็นอาวุธ ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ นอกจากนี้จากการตรวจสอบบริเวณหน้ากุฏิพระลุน ยังพบขวดเหล้าขาวและเครื่องดื่มชูกำลังวางอยู่บนแคร่ไม้ไผ่อย่างละ 2 ขวดจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบถามพระกรกช เสนาฤทธิ์ อายุ 72 ปี พระลูกวัดป่าภูปอ กล่าวว่า เมื่อช่วงเวลา 20.00 น. มีชายสองคนสวมหมวกกันน็อกและหน้ากากอนามัย เข้ามาหาพระลุน โดยนั่งพูดคุยกันที่หน้ากุฏิของตน ซึ่งมีการพูดจากันปกติ จับใจความได้ว่ามาทวงหนี้กับพระลุน ประมาณ 3 หมื่นบาท โดยซึ่งหนึ่งในชายสองคนถามพระลุนว่าหลวงพ่อ เป็นหนี้จะไม่ใช้หนี้หรือ จากนั้นพระลุนบอกว่าให้ไปคุยกันที่กุฏิ เพราะเกรงใจตน ก่อนจะพากันไปตกลงกันที่กุฏิพระลุน
กระทั่งช่วงเวลาประมาณตี 2 ได้ยินเสียงเหมือนคนทะเลาะกัน และได้ยินเสียงชายคนเดิม ซึ่งคล้ายกับคนเมาสุราตะโกนว่ามึงไม่ใช้หนี้ ใช่ไหม จากนั้นเสียงก็เงียบไป กระทั่งช่วงเช้ามีชาวบ้านมาพบว่า พระลุนถูกฆ่ามรณภาพแล้ว ส่วนสาเหตุคาดว่าคนร้ายน่าจะมาทวงหนี้ กับพระลุน ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อ 3 วันที่แล้ว ชายสองคนนี้ก็ได้มา ทวงหนี้กับพระลุนแล้วครั้งหนึ่ง แต่ไม่ทราบว่าเป็นหนี้ค่าอะไร ก่อนจะกลับมาทวงอีก เพราะทราบข่าวว่าพระลุนถูกหวย แต่อาจจะทวงไม่ได้จึงลงมือฆ่าดังกล่าว
สึกหลังถูกแจ้งข้อหา
พระกรกชเล่าเรื่องราวเป็นฉากๆ พร้อมมีหลักฐานประกอบ น่าเชื่อถือ วางตัวเป็นพยานปากเอกในคดีฆาตกรรมโหด หากแต่เมื่อตำรวจพบคราบเลือดที่จีวร ย่าม เอกสาร นิ้วชี้ นิ้วกลางและมือขวามีบาดแผล รวมทั้งที่เป็นผู้ที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุมากที่สุด จากพยานปากเอกจึงกลายเป็นผู้ต้องสงสัยเบอร์ 1
วันที่ 31 ต.ค. พล.ต.ต.วรวัฒน์ มะลิ รักษาราชการแทน ผบก.กาฬสินธุ์ เปิดเผยความคืบหน้าว่า ตำรวจเชิญพระกรกช หรือหลวงตาจรัญ เสนาฤทธิ์ อายุ 72 ปี มาสอบปากคำ
เนื่องจากเป็นผู้ต้องสงสัยมากที่สุด มีพยานระบุว่าหลวงตาจรัญ มีปากเสียงทะเลาะกับพระลุนบ่อยครั้ง พบคราบเลือดที่จีวร ย่าม เอกสาร นิ้วชี้ นิ้วกลาง และมือขวามีบาดแผล เป็นผู้ที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุมากที่สุด จากการสอบเค้นนาน 2 วัน ในที่สุดพระกรกชยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุฆ่าพระลุน
คุมตัวทำแผนฯ
รรท.ผบก.กาฬสินธุ์กล่าวอีกว่า สำหรับสาเหตุเบื้องต้นเกิดจาก พระ 2 รูประหองระแหงกันเรื่องการแบ่งอาหารที่เจ้าอาวาสและพระลุน บิณฑบาตมา เนื่องจากพระกรกชเดินบิณฑบาตไม่ได้ อ้างว่าพระลุน พูดเสียดสีว่าไม่ได้ออกบิณฑบาตแต่กลับแบ่งเอาอาหารไปมากกว่า คนบิณฑบาต จนมีปากเสียงทะเลาะกันและถูกพระลุนดุด่าหยาบคาย หลายครั้ง จึงเก็บความแค้นไว้ในใจเรื่อยมา
ก่อนที่ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาจึงคิดวางแผน โดยเริ่มจากการ เก็บขวดเหล้าเปล่า และซื้อเหล้า จัดเตรียมมีด เพื่อที่รอเวลาลงมือ วันเกิดเหตุเวลาตี 5 พระลุนตื่นและนำจีวรไปซักในห้องน้ำเพื่อเตรียมตัวที่จะกลับไปเยี่ยมบ้าน หลังจากออกพรรษา ซึ่งหลังก่อเหตุได้เตรียมคำพูดไว้บอกเจ้าหน้าที่ไว้ว่ามีชายสองคนมาทวงหนี้พระลุนและฆ่ากัน เสียชีวิต
โดยพระกรกชเดินตามไปแล้วใช้มีดอีโต้ฟันศีรษะหลายครั้ง พระลุนพยายามวิ่งหนีออกมาจนล้มลงบริเวณบันได และตะโกน ขอความช่วยเหลือ พระกรกชตามมาใช้จอบสับและตีซ้ำที่ศีรษะจนแน่นิ่ง และมรณภาพ ในเบื้องต้นถูกแจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา โดยไตร่ตรอง ไว้ก่อน ที่มีอัตราโทษสูงถึงประหารชีวิต
เมื่อคำสอนของพระศาสดามิอาจขัดเกลาจิตใจ ก็ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกรรมลิขิต