กาฬสินธุ์หนุ่มคลั่งขับเก๋งพุ่งชนหวังฆ่าสองผัวเมียร้านอาหารตามสั่งหวิดดับ
เกิดเหตุระทึก หนุ่มวัย 25 ปี เกิดอาการคลุ้มคลั่งขับรถเก๋งพุ่งชนสองสามีภรรยาร้านอาหารตามสั่งติดกับ ธ.ก.ส.ใจกลางเมืองกาฬสินธุ์ ส่งผลให้ทั้งสองคนได้รับบาดเจ็บสาหัส ท่ามกลางสายตาลูกค้าที่กำลังนั่งรับประทานอาหารและประชาชนที่อยู่ใกล้ต่างวิ่งหนีตายกันจ้าละหวั่น ขณะที่ผู้ก่อเหตุหลบหนีก่อนย้อนกลับมาจึงถูกจับกุมตัวได้ ด้านแม่เผยลูกชายมีอาการทางประสาท และก่อนหน้านี้ลูกชายไปมีเรื่องทะเลาะกับสองสามีภรรยาคู่นี้ ส่วนสาเหตุคาดว่าน่าจะเกิดความแค้น และไม่ได้กินยา
เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 5 มกราคม 2564 พ.ต.ท.ชูชาติ อุทธิสินธุ์ ร้อยเวร สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุรถเก๋งพุ่งชนร้านอาหารติดกับ ธ.ก.ส.กาฬสินธุ์ มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย และมีควันไฟพวยพุ่งออกมา หลังรับแจ้งจึงประสานยังเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและหน่วยกู้ภัยเข้าตรวจสอบ
โดยที่เกิดเหตุพบเป็นเพิงสังกะสีร้านขายอาหาตามสั่งชื่อร้านภูมิใจ อยู่ข้างห้างสรรพสินค้ากาฬสินธุ์พลาซ่า สาขา 1 และติดกับกำแพงของ ธ.ก.ส.กาฬสินธุ์ เขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ พบชาวบ้านมุงดูเหตุการณ์จำนวนมาก และหลายคนอยู่ในอาการตกใจ ภายในร้านพบรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า แจส สีดำ ทะเบียน ษอ 3677 กรุงเทพมหานคร พุ่งชนเข้าไปในร้านดังกล่าว ด้านหน้าพังยับเยิน และข้าวของเครื่องใช้ต่างๆของร้านพังเสียหาย กระจัดกระจายอยู่เต็มพื้น นอกจากนี้ยังมีกลุ่มควันไฟพวยพุ่งออกมา คาดว่าน่าจะเป็นควันจากเครื่องยนต์ เจ้าหน้าที่จึงทำการตัดระบบถังแก๊สและนำออกมาจากเปลวไฟเพื่อความปลอดภัย โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย เป็นสองสามีภรรยาเจ้าของร้านทราบชื่อคือนายพงษ์พัฒน์ นันทแพง อายุ 25 ปี ถูกรถชนกระเด็นมาอยู่อีกฝั่งของร้าน ได้รับบาดเจ็บบริเวณหลังและขา กระดูกสะโพกแตก ส่วนนางสาวยุภา อิ่มแมน อายุ 27 ปี ภรรยาถูกรถชนติดอยู่ในร้านพลเมืองดีช่วยกันนำตัวออกมา ได้รับบาดเจ็บสาหัสทั้งคู่ นอกจากนี้ยังมีลูกค้าที่กำลังนั่งกินข้าวได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยอีก 1 ราย ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะปฐมพยาบาลเบื้องต้นและเร่งนำตัวผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า เหตุการณ์ครั้งนี้คาดว่าไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่เป็นการตั้งใจขับรถพุ่งชนเข้าไปในร้าน มุ่งหวังฆ่าสองสามีภรรยาเจ้าของร้านที่กำลังนั่งอยู่ในร้าน ส่วนคนขับหลังก่อเหตุได้ลงมาจากรถแล้วเตะหม้อก๋วยเตี๋ยวและข้าวของแล้วเดินหลบหนี ก่อนที่จะย้อนกลับมา พร้อมร้องตะโกนจะหมายจะเอาชีวิตเจ้าของร้านอีก พลเมืองดีและเจ้าหน้าที่จึงคุมตัวไว้ ทราบชื่อต่อมาคือนายเชาวัตน์ พึ่งเจริญ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 460 ถนนอนรรฆนาค ต.กาฬสินธุ์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งยังคงอยู่ในอาการพูดจาไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่ยอมรับว่าเป็นคนก่อเหตุ เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวไปสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก
จากการสอบถามนางรุ่งราวรรณ ภูบุตตะ อายุ 37 ปี แม่ค้าขายอาหารตามสั่งร้านที่อยู่ติดกันทราบว่า ก่อนเหตุเกิดเห็นรถเก๋งคันดังกล่าวขับมาและคนขับลดกระจกลงแล้วตะโกนออกมาว่า “กูจะไม่เอามึงไว้” ก่อนจะเร่งเครื่องขับพุ่งเข้ามาในร้านอาหารตามสั่ง ซึ่งขณะนั้น สองสามีภรรยาเจ้าของร้านกำลังนั่งคุยกันอยู่ที่เก้าอี้ จนทั้งสองคนกระเด็นไปคนละทิศละทาง จากนั้นคนขับก็ถอยหลังออกไป ก่อนที่จะเร่งเครื่องพุ่งเข้ามาชนซ้ำรอบสอง ท่ามกลางลูกค้าที่นั่งรับประทานอาหารที่อยู่ร้านติดกัน และชาวบ้านที่มาทำธุระที่ ธ.ก.ส.ต่างตกใจแตกตื่นวิ่งหนีเอาตัวรอดกันอย่างจ้าละหวั่น โชคดีที่ในร้านมีโต๊ะเก้าอี้ขวางความแรงของรถไว้ ส่วนคนขับหลังก่อเหตุได้เดินทางมาจากรถแล้วยังเตะหม้อก๋วยเตี๋ยวและถ้วยชามก่อนเดินหนีไป
ทั้งนี้ สอบถามนางวนิดา พึ่งเจริญ อายุ 55 ปี แม่ของนายเชาวัตน์ ซึ่งขายแว่นตาอยู่ร้านข้างกัน กล่าวว่า ลูกชายนั้นป่วยมีอาการทางประสาทมาได้ประมาณปีเศษแล้ว ซึ่งได้ไปรักษาและอยู่ระหว่างการกินยา ก่อนเกิดเหตุก็เห็นลูกชายเป็นปกติ แต่ไม่นึกว่าอยู่จะมาก่อเหตุดังกล่าวขึ้น ซึ่งตนก็ตกใจอย่างมาก ส่วนสาเหตุนั้นคาดว่าก่อนหน้านี้ลูกชายเคยมีเรื่องทะเลาะกับนายพงษ์พัฒน์ นันทแพง ประมาณ 1 ปี จึงอาจจะมีความแค้น ประกอบกับมีอาการทางประสาท และคาดว่าช่วงเช้ายังไม่ได้กินยาจึงมาก่อเหตุดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวผู้ก่อเหตุไปสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก พร้อมเชิญตัวญาติมาสอบถาม ซึ่งเบื้องต้นญาติระบุว่าผู้ก่อเหตุมีอาการทางประสาท เจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบว่ามีอาการทางประสาทจริงหรือไม่ ส่วนสาเหตุเบื้องต้นคาดว่าก่อนหน้านี้ผู้ก่อเหตุได้มีเรื่อง โดยได้ทำร้ายร่างกายใช้เหล็กตีศีรษะนายพงษ์พัฒน์มาก่อนครั้งหนึ่ง ที่ร้านอาหารแห่งนี้ ซึ่งมีการแจ้งความและขึ้นศาล คาดว่านายเชารัตน์จะมีความแค้น และมีอาการทางประสาทจึงมาก่อเหตุอีก พร้อมกับสอบปากคำผู้เห็นเหตุการณ์อย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อสรุปเหตุการณ์ครั้งนี้ต่อไป