ภูมิภาค
กาฬสินธุ์เดินหน้าจัดหาแหล่งน้ำช่วยเกษตรแก้ไขปัญหาภัยแล้งยั่งยืน
วันพุธ ที่ 02 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565, 20.18 น.
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2565 ที่แปลงนาเกษตรกรบ้านหนองบัวหน่วย หมู่ 2 ต.คลองขาม อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ นายอรรถวุฒิ กรุงแสนเมือง ผู้อำนวยการสถานีพัฒนาที่ดิน จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สถานีพัฒนาที่ดิน จ.กาฬสินธุ์ เข้าติดตามความคืบหน้าการขุดแหล่งน้ำในไร่นานอกเขตชลประทาน พร้อมให้คำแนะนำในการบริหารจัดแหล่งน้ำ และพื้นที่ใกล้เคียง หลังดำเนินการขุดแหล่งน้ำแล้วเสร็จ และอยู่ในขั้นตอนการเตรียมดิน เพื่อปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์ ซึ่งเป็นการต่อยอดหลังได้รับแหล่งน้ำดังกล่าว
นายอรรถวุฒิ กรุงแสนเมือง ผู้อำนวยการสถานีพัฒนาที่ดิน จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า โครงการขุดแหล่งน้ำในไร่นานอกเขตชลประทาน เป็นโครงการต่อเนื่องที่กรมพัฒนาที่ดิน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มอบหมายสถานีพัฒนาที่ดินดำเนินการ เพื่อจัดหาแหล่งน้ำให้เกษตรกรนอกเขตชลประทาน ที่ขาดแคลนแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร โดยเฉพาะในฤดูแล้ง ทำให้เสียโอกาสในการประกอบอาชีพ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการช่วยเหลือเกษตรกร ในพื้นที่นอกเขตชลประทาน ได้มีแหล่งน้ำเพื่อการประกอบอาชีพเกษตรกรรม รวมทั้งการประมง ปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ และอื่นๆ จึงได้จัดโครงการขุดแหล่งน้ำในไร่นานอกเขตชลประทานดังกล่าว
นายอรรถวุฒิกล่าวอีกว่า สำหรับเงื่อนไขที่เกษตรกรจะได้รับสิทธิ์เข้าร่วมโครงการนั้น ต้องมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินของตนเอง หรือได้รับการยินยอมจากเจ้าของกรรมสิทธิ์ เช่น บิดา หรือมารดา เป็นเกษตรกรที่มีความมุ่งมั่นที่จะทำการเกษตรและประกอบอาชีพ โดยแหล่งน้ำแต่ละแห่ง ขนาดความจุ 1,260 ลูกบาศก์เมตร มีค่าบริหารจัดการแห่งละ 20,300 บาท ซึ่งทางโครงการจัดให้ ขณะที่เกษตรกรร่วมสมทบแห่งละ 2,500 บาท เพื่อการมีส่วนร่วม ทั้งนี้ เกษตรกรที่มีความสนใจอยากได้แหล่งน้ำ เพื่อกักเก็บน้ำในที่ดินของตน สามารถแจ้งความประสงค์กับหมอดินประจำหมู่บ้าน หรือเข้ามาติดต่อที่สถานีพัฒนาที่ดิน จ.กาฬสินธุ์ได้โดยตรง โดยในปีนี้ทั้ง 18 อำเภอใน จ.กาฬสินธุ์ ได้ปิดโครงการแล้ว โดยได้รับการจัดสรร 1,500 แห่ง
ด้านนางบุญชนก ภูละมุล อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 245 หมู่ 2 บ้านหนองบัวหน่วย ต.คลองขาม อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในเกษตรกรที่ได้เข้าร่วมโครงการแหล่งน้ำในไร่นานอกเขตชลประทาน กล่าวว่าครอบครัวตนมีที่นาประมาณ 4 ไร่ ทุกปีที่ผ่านมาได้ทำนาแต่นาปี โดยอาศัยน้ำฝนเป็นหลัก เนื่องจากอยู่นอกพื้นที่ใช้น้ำชลประทาน ขณะที่ฤดูแล้งปลูกข้าวโพด ถั่วลิสง โดยรับน้ำจากบ่อเล็กๆกลางแปลงนา ที่ขุดไว้เพื่อกักเก็บน้ำฝน ปีใดที่ฝนดีก็ได้น้ำเพียงพอต่อการเพาะปลูกพืชหน้าแล้ง แต่ปีใดที่ฝนทิ้งช่วง น้ำก็ไม่พอใช้ ทำให้เสียโอกาสในการประกอบอาชีพ
นางบุญชนกกล่าวอีกว่า พอทราบว่าทางสถานีพัฒนาที่ดิน จ.กาฬสินธุ์ มีโครงการแหล่งน้ำในไร่นาดังกล่าว จึงได้สมัครเข้าร่วมโครงการ โดยมองเห็นประโยชน์ที่จะได้รับหลังมีแหล่งน้ำ คือปลูกมะพร้าว กล้วย พืชผัก ไม้ผล เลี้ยงปลา เป็ด ไก่ เพราะเมื่อมีน้ำเพียงพอแล้ว ก็สามารถประกอบอาชีพเสริมได้ทุกอย่าง ขณะที่ในอนาคตยังจะต่อยอดด้วยการสร้างร้านอาหาร จำหน่ายผลผลิต หรือร้านขายกาแฟ เพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของผู้มาใช้บริการ สำหรับตนเชื่อว่าผลดีของการมีแหล่งน้ำดังกล่าว เชื่อว่าจะสามารถสร้างงาน สร้างอาชีพ แก้ไขปัญหาความยากจน และปัญหาว่างงานในฤดูแล้ง รวมทั้งยังสามารถขยายพื้นที่รับน้ำปลูกพืชผัก และต่อยอดเป็นอาชีพที่หลากหลาย สร้างรายได้ตลอดปี
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่