“ข่าวลึกปมลับ” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APP และสถานีโทรทัศน์ NEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันอังคารที่ 27 กันยายน 2565 ตอน “อุ๊งอิ๊ง” แลนด์สไลด์! ท้าชนป่ารอยต่อเปิดศึกยุทธการ 3 ก๊ก
เข้าสู่ ‘โหมดเลือกตั้ง’ ภายหลัง กกต. ออกระเบียบปฏิบัติของพรรคการเมือง ช่วงกรอบเวลา 180 วัน ก่อนที่รัฐบาลจะครบวาระ 4 ปี 23มี.ค.2566 อีกทั้ง กกต. ยังได้เปิดไทม์ไลน์การจัดเลือกตั้ง ที่คาดว่าจะมีการเลือกตั้ง 7 พ.ค. 2566 เว้นแต่มีการยุบสภาที่จะต้องจัดเลือกตั้งภายใน 45-60วัน
แต่ก่อนการเลือกตั้งก็มี ‘ออเดิร์ฟ’ มาแล้ว 2 สนาม ในพื้นที่ภาคอีสาน ที่ยิ่งตอกย้ำปรากฏการณ์ แลนด์สไลด์ของพรรคเพื่อไทย
ย้อนไปเมื่อ 14 ส.ค. ที่ผ่านมา มีการจัดเลือกตั้งซ่อมนายก อบจ.กาฬสินธุ์ ภายหลังศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาให้มีการเลือกตั้งนายก อบจ.กาฬสินธุ์ ขึ้นใหม่ เหตุเพราะ กกต. ส่งเรื่องขอให้ศาลสั่งให้มีการเลือกตั้งนายก อบจ.ใหม่ เนื่องจากมีผู้ยื่นคำร้องคัดค้านการเลือกตั้งนายก อบจ.กาฬสินธุ์ เมื่อ 20 ธ.ค. 2563 มิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม
ซึ่ง ‘เฉลิมขวัญ หล่อตระกูล’ สวมเสื้อพรรคเพื่อไทย โค่นแชมป์ ‘ชานุวัฒน์ วรามิตร’ อดีตนายก อบจ.กาฬสินธุ์ ไปหลายหมื่นคะแนน หลัง ‘เฉลิมขวัญ’ เคยพ่าย ‘ชานุวัฒน์’ ในการเลือกตั้งนายก อบจ.กาฬสินธุ์ ปลายปี 2563 มาก่อน
สำหรับ ‘ชานุวัฒน์ วรามิตร’ ถูกมองว่าเป็น ‘สายป่ารอยต่อ’ ในขั้วอำนาจ 3ป. เพราะเคยเป็นผู้สมัคร ส.ส.กาฬสินธุ์ เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ มาก่อน แต่ครั้งนั้นพ่ายให้กับพรรคเพื่อไทย จึงไม่ได้เป็น ส.ส.
ทั้งนี้มีการมองว่าเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ ‘เฉลิมขวัญ’ คว้าชัยคือการปลุกกระแส ‘แลนด์สไลน์’ ให้ชนะขาด ควบคู่การปลุกกระแส ‘อุ๊งอิ๊ง’แพทองธาร ชินวัตร ที่ขึ้นเป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย โดยมี ‘เต้น’ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย เป็นหลักในการลงพื้นที่หาเสียง รวมทั้งได้ ส.ส.เพื่อไทย ในพื้นที่ทั้ง 5 เขต ให้การสนับสนุนด้วย
ล่าสุดที่ จ.ร้อยเอ็ด ในการเลือกตั้งนายก อบจ.ร้อยเอ็ด ‘เศกสิทธิ์ ไวนิยมพงศ์’ อดีต ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย เอาชนะ ‘จุรีพร สินธุไพร’ ชนิดขาดลอย แลนด์สไลด์ อีกครั้ง
แม้ว่า ‘จุรีพร’พยายามขับเน้นความเป็น ‘ตระกูลสินธุไพร’ และความเป็นนักรบ นปช. เพราะ ‘จุรีพร’ เคยเป็น แกนนำ นปช.แดงพัทยา แต่เมื่อครั้งเลือกตั้ง ส.ส. ปี2562 กลับพลิกขั้วมาอยู่กับ ‘3ป.’ โดยลงสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ แต่ลำดับไปไม่ถึงจึงไม่ได้เป็น ส.ส.
จากนั้นได้แต่งตั้งเป็นข้าราชการการเมืองประจำสำนักนายกฯ ทำงานอยู่กับ ‘แรมโบ้ อีสาน’เสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกฯ ที่ต่างเป็น ‘แกนนำเสื้อแดง’ ที่พลิกขั้วมาทำงานกับฝั่ง ‘อำนาจ 3ป.’
สำหรับ ‘เศกสิทธิ์ ไวนิยมพงศ์’ ได้รับกระแส ‘อุ๊งอิ๊ง’ เต็มๆ ในการหาเสียง หลัง ‘อุ๊งอิ๊ง’ ลงพื้นที่ขึ้นเวทีปราศรัย โดยมี ‘ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ’ เป็นโซ่ข้อกลางเชื่อมพรรคเพื่อไทยกับคนเสื้อแดง
รวมทั้งได้ ‘จาตุรนต์ ฉายแสง’ ขึ้นปราศรัย ร่วมลงพื้นที่ เพราะ ‘เศกสิทธิ์’ กับ ‘จาตุรนต์’ รู้จักมักคุ้นกันมาตั้งแต่ ‘พรรคความหวังใหม่’ ก่อนย้ายมาอยู่ ‘พรรคไทยรักไทย’ ทั้งคู่
ปรากฏการณ์แลนด์สไลด์ที่เกิดขึ้น ทำให้พรรคเพื่อไทย เชื่อมั่นในสนามภาคอีสานมากขึ้น โดยเฉพาะการปลุกปั้น ‘อุ๊งอิ๊ง’ และขาย ‘มนต์ขลังทักษิณ’ ไปด้วย เพื่อสู้กับอดีต ‘คนกันเอง’ อย่าง ‘คุณหญิงหน่อย’สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ที่ระดม ‘ขุมกำลัง’ ในพื้นที่ภาคอีสาน มาตั้งแต่เป็น ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย
เป็นที่รู้กันว่าฝั่ง ‘สุดารัตน์’ ก็หวังกวาดคะแนนเลือกตั้ง ส.ส. ในปีหน้า จากคนที่มี ‘ฐานเสียงแน่น’ ในแต่ละพื้นที่
ก่อนหน้านี้เคยเกิดเรื่องระหว่าง ‘สุดารัตน์’ กับ ‘พรรคเพื่อไทย’ ที่ออกมาโต้คารมยันไม่ใช่ ‘พรรคพี่พรรคน้อง’ หลังในพื้นที่ภาคอีสานยังมี ‘ความสับสน’ ในตัวบุคคลและแนวทางพรรคต่างๆ
เนื่องมาจากเหตุการณ์ ‘อีสานโพล’ ของ ศูนย์วิจัยธุรกิจและเศรษฐกิจอีสาน ม.ขอนแก่น ได้แถลงผลสำรวจในไตรมาส 3 ในหัวข้อ ถ้ามีการเลือกตั้งใหม่ อยากให้ใครเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพบว่า อันดับ 1 ‘คุณหญิงหน่อย’สุดารัตน์ ร้อยละ 23.4 รองลงมา ‘อุ๊งอิ๊ง’แพทองธาร ร้อยละ 21.1 ทำให้เกิดดราม่าขึ้น
ล่าสุด ‘นิด้าโพล’ ได้เผยผลสำรวจ เรื่อง “การสำรวจคะแนนนิยมทางการเมือง รายไตรมาส ครั้งที่ 3/2565” ทำการสำรวจช่วง 15-21 ก.ย. 2565 ถึงบุคคลที่ประชาชนจะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรี พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 24.16 ระบุว่า ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้ , อันดับ 2 ร้อยละ 21.60 ระบุว่าเป็น ‘อุ๊งอิ๊ง’แพทองธาร จาก พรรคเพื่อไทย
อันดับ 3 ร้อยละ 10.56 ระบุว่าเป็น ‘ทิม’พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จากพรรคก้าวไกล , อันดับ 4 ร้อยละ 10.12 ระบุว่าเป็น ‘บิ๊กตู่’พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ส่วนอันดับ 5 ร้อยละ 9.12 ระบุว่าเป็น ‘คุณหญิงหน่อย’สุดารัตน์ จากพรรคไทยสร้างไทย
อย่างไรก็ตาม อีกศึกที่พรรคเพื่อไทยต้องวัดพลังคือกับ ‘พรรคภูมิใจไทย’ ที่ไล่ ‘ดูดส.ส.เพื่อไทย’ ให้ย้ายค่ายมาร่วมกับ ภูมิใจไทยโดยเฉพาะพื้นที่ภาคอีสานตอนล่าง โดยพรรคเพื่อไทยได้เปิดแคมเปญ เมื่อครั้งลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ว่า “ไล่หนู ตีงูเห่า” นำโดย ‘อุ๊งอิ๊ง’แพทองธาร ฟาดตรงไปที่ ‘เสี่ยหนู’อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย
อีกทั้งยังมีข่าวออกมาว่าฝั่ง ‘เพื่อไทย’ มีแนวคิดออกกฎเหล็กทั้งขู่และกำราบ ‘ตระกูลการเมือง’ ที่พายเรือสองแคม อยู่ใน 2 ขั้วอำนาจ อาจไม่ส่งลงชิง ส.ส.เพื่อไทย ด้วย
ดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนกระแส ‘อุ๊งอิ๊ง’ ที่เริ่มจุดติด ตามความตั้งใจของ ‘ทักษิณ’ ที่หวังส่งไม้ต่อให้ ‘ลูกสาว’ นำทัพ กรุยทาง ‘แลนด์สไลน์’ ในปีหน้า หวังให้พรรคเพื่อไทย กลับมามีอำนาจต่อรองใน ‘สมการอำนาจ’ ของประเทศมากขึ้น แต่ก็อย่าได้ ‘หลงแสงสี’ เพราะผลเลือกตั้งที่เกิดขึ้นอาจเป็นแค่ ‘ชัยชนะชั่ววูบ’ เพราะเป็นเพียง ‘สนามท้องถิ่น’
ปีหน้า ‘สนามระดับชาติ’ ของจริง แต่ละพรรคไม่มีใครยอมใครทั้งสิ้น ทักษิณ อุ๊งอิ๊ง เพื่อไทย คงกรำศึกหนักแน่ เพราะจะกลายเป็นเป้าเดียวที่ทุกพรรคจ้องโค่นลงให้ได้
————————————-
**หมายเหตุ
ดาวโหลดแอป Sondhi App ได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore : https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android
สมัครสมาชิกได้แล้ววันนี้
รายเดือนเพียง เดือนละ 99 บาท
รายปี 990 บาท (10 เดือน แถม 2เดือน )
ถ้ามีปัญหาการใช้งาน app หรือการสมัครสมาชิกใน app ติดต่อสอบถามได้ที่ Line id : @sondhitalk หรือ https://lin.ee/Skns1k1